ไหมทอร์นาโด คือ ไหมเส้นเรียบที่นำมาร้อยพันกันให้แน่นก่อนที่จะร้อยเข้าไปภายใต้ผิวหนัง ให้ประสิทธิภาพเป็นสองเท่าของไหมชนิดธรรมดาในการสร้างคอลลาเจน เพราะหนาและแข็งแรงกว่า ใช้เพียง 6-8 เส้นต่อหนึ่งบริเวณ เหมาะกับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยไม่มากนัก
ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้
�งดทานยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดออก เช่น แอสไพริน, Vitamin E, ใบแป๊ะก๊วย
�เวลานอน ให้นอนหงายนิ่งๆ อย่าเผลอนอนคว่ำ นอนตะแคงให้ใบหน้าถูกับหมอน เพราะอาจรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ในตำแหน่งที่ร้อยไหมได้ จนเกิดความรำคาญ
�ภายในสัปดาห์แรกหลังเข้ารับการรักษาด้วยการ้อยไหมละลายควรสัมผัสใบหน้าเบาๆ บางคนเผลอล้างหน้าแรงๆ ก็อาจรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ไหมได้ (ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสทั้งบริเวณที่รักษา 2-3 วัน)
�ภายใน 2 สัปดาห์แรก ห้ามทำเลเซอร์ ทรีตเม้นต์นวดหน้าต่าง รวมทั้งว่ายน้ำ หรือโยคะ เนื่องจากการร้อยไหมนั้นมีรอยแผล เพียงแต่คุณมองไม่เห็น จึงควรป้องกันทุกกิจกรรมที่สร้างโอกาสให้เชื้อโรคซึมเข้าสู่ใบหน้าคุณได้
�การร้อยไหมละลายจะเริ่มเห็นผลหลังรับบริการ 1 เดือน และเห็นผลชัดเจนเต็มที่ภายใน 6 เดือนแรก ดังนั้น หากระยะแรกยังไม่เห็นผลของการร้อยไหมละลาย อย่างเพิ่งใจร้อยไปฝ่าตัดทำศัลยกกรรมใดๆ ซ้ำอีก ควรรอดูผลชัดเจนของการร้อยไหมก่อน กรณีที่มีอาการข้างเคียง ตามราการด้านล่างให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำแพทย์ดังนี้
�หลังการร้อยไหมควรทานยาแก้อักเสบเป็นระยะเวลา 5-7 วัน จะช่วยให้อาการอักเสบหายเร็วขึ้น
�มีอาการบวม ปวด บริเวณร้อยไหม แก้โดยทานยาแก้ปวด ยาลดบวมได้ ช่วงแรกประคบเย็น วันหลังๆ ประคบอุ่น อาการบวมจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 3-7 วัน
�รอยเขียวช้ำบริเวณที่ร้อยไหมอาจพบได้เล็กน้อย กรณีมีปร่ะวัติการทานยาลิ่มเลือด, Aspirin หรือ วิตามิน E อาหารเสริมบางชนิดเช่น Fish oil, Primrose รอยเขียวจะค่อยๆ จางลง และหายได้เองภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์
�อาจมีปุ่มนูนเล็กๆ หรือรอยบุ๋มเกิดจากไหมที่ร้อยอยู่ชิดผิวหนังเกินไป เป็นอาการปกติ ประมาณ 1 เดือน จะค่อยๆ หายไปตามการละลายของไหม ไม่ต้องตกใจ
�บางจุดหลังทำอาจมีเส้นไหมโผล่ (เส้นไหมจะมีสีม่วงเข้ม) เป็นเรื่องปกติ ให้กลับมาพบแพทย์เพื่อตัดไหมที่โผล่ออก อย่าดึงออกหรือตัดเอง
�กรณีบริเวณที่ร้อยไหมบวม และปวดมากขึ้นเรื่องๆ แทนที่จะน้อยลง ให้รีบไปปรึกษาแพทย์ผู้ทำหัตถการ หรือเจ้าหน้าที่ตามเบอร์ที่ไห้ไว้ทันที